สวัสดีครับทุกคน! วันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องโครงสร้างภาษาอังกฤษที่น่าสนใจ คือ “is named” นี่เป็นโครงสร้างที่คนทำงานภาษาอังกฤษใช้บ่อย แต่อาจจะยังไม่เข้าใจดีว่ามันหมายถึงอะไร
โครงสร้าง “is named” ใช้เมื่อเราต้องการบอกว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดถูกตั้งชื่อเป็นอย่างไร มันช่วยให้เราสื่อสารได้ชัดเจนขึ้นว่าสิ่งนั้นๆ มีชื่อว่าอะไร ตัวอย่างเช่น “The new building is named after the company’s founder.” (ตึกใหม่ถูกตั้งชื่อเป็นชื่อผู้ก่อตั้งบริษัท)
คำว่า “is named” นี้สามารถใช้ได้กับทั้งคนและสิ่งของ โดยส่วนใหญ่เราจะใช้มันกับสิ่งของ เพราะแล้วแต่ที่เราต้องการบอกว่าสิ่งนั้นๆ ถูกตั้งชื่อว่าอะไร
สำหรับคน โครงสร้าง “is named” ใช้บอกว่าคนนั้นๆ มีชื่อว่าอะไร เช่น “He is named John.” (เขาถูกตั้งชื่อว่า John) แต่ส่วนใหญ่เราจะใช้ “His name is…” มากกว่าเพราะมันฟังดูเป็นธรรมชาติขึ้น
ในทางกลับกัน ถ้าเราต้องการบอกว่าสิ่งหนึ่งสิ่งใดถูกตั้งชื่อเป็นชื่อคน เราสามารถใช้ “is named after” เช่น “The park is named after the mayor.” (สวนสาธารณะถูกตั้งชื่อเป็นชื่อนายกเทศมนตรี)
นี้เป็นโครงสร้างที่มีประโยชน์มากในการสื่อสารในภาษาอังกฤษ ไม่ว่าจะเป็นการบอกชื่อของคน สถานที่ หรือสิ่งของต่างๆ มันช่วยให้เราสื่อสารได้ชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ โครงสร้าง “is named” ยังสามารถใช้แสดงความคิดเห็นหรือความรู้สึกของเราเกี่ยวกับสิ่งที่เรากำลังพูดถึง ดังนั้นถ้าเรามีโอกาส ลองใช้ “is named” ในการพูดหรือเขียนภาษาอังกฤษดูสิครับ
และเพื่อให้เราสามารถใช้ “is named” ได้อย่างถูกต้อง ให้เราจำไว้ว่า “is named” จะตามด้วยชื่อที่ถูกตั้ง ถ้าเราต้องการบอกว่าสิ่งนั้นถูกตั้งชื่อเป็นชื่อคน เราจะใช้ “is named after” แล้วตามด้วยชื่อคนนั้น
ท้ายที่สุด เราก็ต้องฝึกฝนการใช้ “is named” ในการพูดและเขียนภาษาอังกฤษ โดยการอ่านและฟังการใช้งาน “is named” ในบทความ หนังสือ หรือภาษาอังกฤษที่คนพูดกันในชีวิตประจำวัน เพื่อให้เราสามารถใช้ “is named” ได้อย่างเป็นธรรมชาติและถูกต้อง